เวลาไปขอสินเชื่อ ธนาคารไม่ได้ดูแค่ว่า ธุรกิจคุณกำไรเท่าไร แต่ดูลึกไปถึงคำถามสำคัญกว่านั้นว่า อีก 12 เดือนข้างหน้า คุณจะมีเงินสดพอจ่ายค่างวดทุกเดือนจริงไหม?
และคำตอบของคำถามนี้ อยู่ในสิ่งที่ผู้ประกอบการจำนวนมาก ยังไม่เคยทำ คือ การประมาณการกระแสเงินสด (Cash Flow Projection) แบบเป็นระบบ
ทำไมปี 2568 ธนาคารถึงอยากเห็น กระแสเงินสดในอนาคต
หลังโควิด เศรษฐกิจทยอยฟื้น แต่ภาพรวมสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะ สินเชื่อsmeยังไม่ได้กลับมาขยายตัวแรงเหมือนเดิม รายงาน Credit Conditions ของธนาคารแห่งประเทศไทยชี้ว่า
ความต้องการสินเชื่อของธุรกิจ SMEs บางช่วง แผ่วลง เพราะเจ้าของกิจการระมัดระวังการก่อหนี้
ขณะเดียวกัน มาตรฐานการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่อกลุ่ม SMEs ยัง เข้มงวดขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกันจำกัด
อีกด้านหนึ่ง รายงานภาพรวมธนาคารพาณิชย์ล่าสุดก็สะท้อนว่า สินเชื่อธุรกิจรวมทั้งระบบเริ่มฟื้นตัว แต่ สินเชื่อกลุ่ม SMEs ยังต้องจับตาความสามารถชำระหนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหลายกิจการมีภาระหนี้สูงจากช่วงก่อนหน้าและรายได้ฟื้นช้ากว่าที่คาด
แปลเป็นภาษาคนง่าย ๆ คือ
แบงก์ไม่ได้อยาก ไม่ปล่อยกู้ แต่ต้องปล่อยให้คนที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระแสเงินสดรองรับหนี้จริง ๆ
จุดนี้เองที่ ประมาณการกระแสเงินสด กลายเป็น ภาษาเดียวกัน ระหว่างเจ้าของกิจการกับธนาคาร
เคสจริง: กำไรโอเค แต่ธนาคารยังลังเล
ลองนึกภาพเจ้าของ ธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีทั้งรายได้จากหน้าร้าน แฟรนไชส์ และขายส่งให้ลูกค้าองค์กร
งบกำไรขาดทุนดูดี กำไรสุทธิเป็นบวกต่อเนื่อง เขาคิดว่าแค่ยื่นขอ
สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อขยายสาขา และ
วงเงินหมุนเวียนในรูป สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน
ธนาคารน่าจะ อนุมัติไม่ยาก
แต่พอยื่นจริง ฝ่ายสินเชื่อตอบกลับมาว่า
ขอดู ประมาณการกระแสเงินสด 12 เดือนข้างหน้า ด้วยครับ อยากเห็นว่าเงินสดรับจ่ายเป็นอย่างไรในแต่ละเดือน และถ้ายอดขายแกว่ง 20% ยังจ่ายค่างวดไหวไหม
สุดท้ายเขาถึงได้เห็นว่า
รอบเก็บเงินลูกค้าองค์กร 60 วัน
แต่ค่าเช่า ค่าแรง ต้นทุนวัตถุดิบต้องจ่ายทุกเดือน
ทำให้บางเดือน เงินสดคงเหลือ หลังจ่ายทุกอย่างแล้ว แทบไม่เหลือกันชนสำรองเลย
นี่คือเหตุผลที่ธนาคารลังเลจะอนุมัติวงเงินเพิ่ม แม้ตัวเลขกำไรปีดูไม่เลว เพราะในมุมผู้ให้กู้ เงินสดจริง สำคัญกว่ากำไรบนกระดาษ
ประมาณการกระแสเงินสด: ไม่ใช่วิชาหลอกแบงก์ แต่คือการ ซื่อสัตย์กับตัวเลขตัวเอง
บทความหลักของ EasyCashflows ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การประมาณการกระแสเงินสดไม่ใช่การแต่งตัวเลขให้สวยเพื่อเอาใจแบงก์ แต่คือการ
เอาเงินสดจริงมาวางบนเส้นเวลา
ต้นงวดมีเงินเท่าไร
เงินสดรับจากยอดขายแต่ละช่องทาง เข้ามา เมื่อไร (เงินสด / เครดิตเทอม / แพลตฟอร์มโอนรอบไหน)
เงินสดจ่ายอะไรบ้างในแต่ละเดือน
ทดสอบ Scenario ยอดขาย +/ 20%
ถ้ายอดขายหล่น 20% ติดต่อกัน 3 เดือน กระแสเงินสดจะเป็นอย่างไร
ถ้ายอดขายดีกว่าคาด 20% ใช้วงเงิน สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก หรือ สินเชื่อ SME ที่มีอยู่ให้ โตแบบไม่หักโค้ง ได้แค่ไหน
ใช้ตัวเลขเหล่านี้เป็นฐานเจรจาวงเงิน
วงเงิน Term Loan สำหรับลงทุน
วงเงินหมุนเวียนจาก แหล่งเงินทุน ต่าง ๆ ทั้ง สินเชื่อแบบมีหลักประกัน และ สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน
เมื่อเจ้าของกิจการถือ แบบจำลองกระแสเงินสด 12 เดือน เดินเข้าแบงก์ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ
จากเดิมที่ธนาคารต้อง เดา ว่าคุณจะจ่ายไหวไหม
กลายเป็น คุยกันบนตัวเลขชุดเดียวกัน ว่าควรจัดโครงสร้างหนี้อย่างไรให้ธุรกิจยืนไหวจริง ๆ
ทำไมเรื่องนี้สำคัญเป็นพิเศษสำหรับปี 2568
ในช่วงที่มาตรฐานการให้สินเชื่อยังค่อนข้างเข้มงวดต่อธุรกิจที่ความเสี่ยงสูงขึ้น สถาบันการเงินบางแห่งเพิ่มเงื่อนไขด้านหลักทรัพย์ค้ำประกันและมาร์จินดอกเบี้ยสำหรับกลุ่มเสี่ยงมากขึ้นอย่างชัดเจน
พร้อมกันนั้น ภาครัฐและหน่วยงานอย่าง บสย. ก็เร่งออกมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยให้ SMEs ที่มีศักยภาพ แต่ขาดหลักทรัพย์ เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ผลดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 ของบสย. ที่ช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ SMEs รายย่อยกว่า 2 หมื่นราย คิดเป็นวงเงินค้ำประกันเกือบ 2 หมื่นล้านบาท
คำถามสำคัญคือ ถ้ารัฐและแบงก์พยายามเปิดประตูให้มากขึ้นแล้ว เราในฐานะผู้ประกอบการเตรียมตัวพร้อมแค่ไหน?
คำตอบเริ่มต้นอยู่ที่ แฟ้มยื่นขอสินเชื่อ ของเราเอง โดยเฉพาะคุณภาพของ ประมาณการกระแสเงินสด
ถ้าอยากเริ่มทำ Projection ให้เป็น ต้องอ่านอะไรต่อ?
ถ้าคุณเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ ร้านอาหาร โรงงานเล็ก หรือธุรกิจบริการที่กำลังคิดจะ
ขอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อขยายกิจการ
จัดโครงสร้าง สินเชื่อแบบมีหลักประกัน + สินเชื่อไม่ใช้หลักประกัน ให้สมดุล แหล่งเงินทุน
นระบบอย่างมีแผน ไม่ใช่แค่กู้ตามที่ถูกเสนอขาย
แนะนำให้ไปอ่านบทความหลักบน EasyCashflows เรื่อง
สร้าง Business Plan ยังไงให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อเพื่อธุรกิจ
ในบทความนั้น คุณจะได้เห็นตัวอย่าง
โครงร่าง Business Plan ที่ธนาคารอ่านแล้วเข้าใจง่าย
วิธีแตกยอดขายต้นทุนเป็นกระแสเงินสดรายเดือน
แนวคิดทำ Scenario +/ 20% ให้ฝ่ายสินเชื่อเห็น ทั้งด้านสว่างและด้านมืด ของตัวเลข
Teaser นี้อยากชวนให้คุณเริ่มจากคำถามง่าย ๆ ว่า
ถ้าเดือนหน้าขายได้น้อยลง 20% ธุรกิจเรายังอยู่ได้ไหม?
หากยังตอบจากความรู้สึกมากกว่าตัวเลข ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลองนั่งทำ ประมาณการกระแสเงินสด แผ่นแรกในชีวิต แล้วใช้มันเป็นเข็มทิศในการคุยกับธนาคารและนักลงทุนอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ทุกบาทที่กู้มา ช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้จริง ไม่ใช่แค่เพิ่มตัวเลขหนี้ในงบดุลเท่านั้นครับ.
เข้าชม : 8
|