
ปี 2568 ไม่ใช่ปีที่ประตู แหล่งเงินทุน ปิด แต่ก็ไม่ใช่ปีที่หยิบ เงินทุน ได้ทันทีโดยไม่เตรียมตัว สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ มาตรฐานการเล่าเรื่องด้วยข้อมูลจริง ผู้ให้กู้อยากเห็นว่าธุรกิจของคุณใช้เงินไปกับอะไร เงินจะเข้าเมื่อไร และจะคืนอย่างไรโดยมีเอกสารยืนยัน ว่ากันแบบภาษาคนทำงาน: ถ้าแฟ้มของคุณตอบคำถาม 3 ข้อนี้ได้ตั้งแต่หน้าแรก โอกาสเข้าถึง แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ หรือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ ก็สูงขึ้นมาก แม้คุณจะเป็น สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ ก็ตาม
1) ดอกเบี้ยลด แต่เกณฑ์คัดกรองยัง เน้นข้อมูลจริง
ข่าวดีคือทิศทางดอกเบี้ยปีนี้ผ่อนคลายลงเมื่อเทียบปีก่อน ต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจจึงเบาลงระดับหนึ่ง แต่ฝั่งผู้ให้กู้ยังคงระมัดระวังและให้ความสำคัญกับคุณภาพแฟ้มคำขอมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มองหา แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ หรือสมัคร สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ สิ่งที่ต้องปรับ:
ทำ เรื่องเล่าเงินสดหนึ่งย่อหน้า: จะใช้ เงินทุน ทำอะไร เงินจะเข้าเมื่อไร และจะคืนเมื่อไร (ตั้งหลังวันรับเงิน 37 วัน)
ทำให้ตัวเลขในบัญชีเดินสะพัด เล่าเรื่องเดียวกัน กับเอกสารการค้า (ใบสั่งซื้อ/ใบเสนอราคา/ใบส่งมอบ/ใบแจ้งหนี้)
ถ้าขอ เงินทุนหมุนเวียน ให้ชี้ให้เห็นวงรอบเงินเข้าออกที่คงเส้นคงวา
2) ภาพรวมสินเชื่อ: ผู้ให้กู้ ดูละเอียดขึ้น กับธุรกิจหน้าใหม่
ปีนี้หลายสถาบันการเงินยังดูความเสี่ยงของพอร์ตอย่างใกล้ชิด ทำให้การพิจารณา สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ และ สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ จะถาม หลักฐาน มากกว่า คำอธิบาย สิ่งที่ต้องปรับ:
ถ้าคุณเพิ่งเริ่ม ให้รวบรวม หลักฐานรายได้จริง 36 เดือน (สลิปโอน/ยอดเกตเวย์/ใบเสร็จ) เพื่อสนับสนุนคำขอ
แสดงลูกค้าหลัก 23 รายที่สั่งซ้ำ พร้อมเงื่อนไขเครดิตเทอมชัดเจน เพื่อชี้ว่า เงินเข้า คาดการณ์ได้
อย่าขอวงเงินเผื่อโดยไม่มีเหตุผลผู้ให้กู้ปีนี้ชอบ วงเงินพอดีกับงาน มากกว่าวงเงินสูงแต่ไม่มีแผนใช้
3) Responsible Lending เวอร์ชันเข้มขึ้น: ใช้เข้าคืน ต้องสอดคล้อง
แนวทางกำกับดูแลใหม่ ๆ ผลักให้ผู้ให้กู้ทวนสอบความสามารถชำระหนี้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คุณจึงควรจัดแฟ้มให้ อ่านแล้วเชื่อ ว่าเงินถูกใช้ไปกับงานจริง และคืนได้ตามรอบเงินจริง สิ่งที่ต้องปรับ:
ถ้าเป็นคำขอ เงินทุนหมุนเวียน ระบุรอบค่าใช้จ่ายถี่ (สต็อก/ค่าแรง/ส่งของ) แล้วผูกวันตัดชำระ หลังวันรับเงิน
ถ้าเป็นการลงทุนยาว (อุปกรณ์/รีโนเวต) ให้ใช้เงินก้อนผ่อนยาว ไม่ใช่เอาเงินสั้นไปอุดเรื่องยาว
ถ้ารอเก็บเงินนาน (เช็ค/เครดิตเทอม) ให้พิจารณาเสริมด้วยแฟคตอริ่งหรือไฟแนนซ์บนห่วงโซ่อุปทาน แทนการดึง OD ค้างยาว
4) ฝั่งรัฐซัพพลายเชน: คันโยกเพิ่มเพดานเข้าถึง แหล่งเงินทุน
นอกเหนือจากธนาคารพาณิชย์ ปีนี้ฝั่งมาตรการรัฐและซัพพลายเชนยังเดินหน้าช่วย แหล่งเงินทุน ไหลไปถึงผู้ประกอบการมากขึ้น ทั้งโครงการค้ำประกันสินเชื่อ (เช่น บสย.) และสินเชื่ออ้างอิงเอกสารการค้า (Supply Chain/Trade Finance) สิ่งที่ต้องปรับ:
ถ้าคุณต้องการเพดานสูงขึ้นแต่ไม่มีหลักทรัพย์ ให้เตรียม ชุดเอกสารดีลจริง (PO/สัญญา/ใบส่งมอบ/ใบแจ้งหนี้) เพื่อเข้าช่องค้ำประกันหรือซัพพลายเชนไฟแนนซ์
ทำสรุป โปรไฟล์ลูกค้าหลัก 1 หน้า (ยอดซื้อรอบชำระประวัติการชำระ) แนบในแฟ้ม ยิ่งข้อมูลจริงชัด โอกาสเข้าถึง แหล่งเงินทุน ทางเลือกก็สูงขึ้น
4 ก้าวปรับแฟ้มปี 2568 (เวอร์ชันที่ปรึกษา ใช้ได้ทันที) ก้าวที่ 1: สร้าง เรื่องเล่าเงินสด 1 ย่อหน้า
เขียน 3 บรรทัดให้ชัด: จะใช้เงินทุน ทำอะไร, เงินจะเข้าเมื่อไร (ยึดเครดิตเทอมหรือรอบยอดขาย), จะคืนเมื่อไร (ตั้งหลังเงินเข้า 37 วัน)
วางย่อหน้านี้ไว้หน้าแรกของแฟ้ม เพื่อ ตั้งกรอบความคิด ให้คนพิจารณาเห็นเหตุผลก่อนเจอรายละเอียด
ก้าวที่ 2: ให้เอกสารและบัญชี พูดเรื่องเดียวกัน
รวบรวมเฉพาะเอกสารที่จะใช้จริงใน 90180 วันข้างหน้า: ใบสั่งซื้อ/ใบเสนอราคา/ใบส่งมอบ/ใบแจ้งหนี้
ใช้บัญชีธุรกิจรับจ่ายเพื่อลดความคลุมเครือของเงินสด และแยกส่วนตัวออกจากธุรกิจ
หากสมัคร สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ ให้ดึงข้อมูลยอดขายเริ่มต้น (36 เดือน) มาเป็นฐานพิสูจน์
ก้าวที่ 3: แยก หน้าที่ของเงิน ก่อนเลือก แหล่งเงินทุน
เงินสั้น = เงินทุนหมุนเวียน (ค่าใช้จ่ายถี่ผันผวน) ใช้วงเงินที่ดึงใช้คืนตามรอบขาย
เงินยาว = เงินก้อน/เช่าซื้อ (อุปกรณ์/รีโนเวต) ผ่อนตามอายุใช้งาน เพื่อลดแรงกดกระแสเงินสด
เงินที่รอเก็บ = แฟคตอริ่ง/ซัพพลายเชนไฟแนนซ์ เร่งเงินเข้าก่อนครบเทอม การจับคู่แบบนี้ทำให้คำขอทั้ง สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ และคำขอวงเงินเพิ่ม ดูมีวินัย โดยธรรมชาติ
ก้าวที่ 4: เปิดประตูทางเลือกค้ำประกัน/มาตรการเฉพาะกิจ
เมื่อแสดงข้อมูลจริงได้ คุณสามารถคุยกับธนาคารเรื่อง ค้ำบางส่วน หรือเข้าช่อง แหล่งเงินทุน บนห่วงโซ่อุปทาน เพื่อขยายเพดานโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
ติดตามสินเชื่อรัฐเฉพาะกิจ/ซอฟต์โลนที่อาจเปิดรอบเป็นระยะ โดยเฉพาะสำหรับ สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ ในกลุ่มที่รัฐอยากสนับสนุน
คำถามที่ลูกค้าถามบ่อย (และคำตอบแบบที่ปรึกษา)
Q1: ดอกเบี้ยลดแล้ว ทำไมยัง ผ่านยาก? A: เพราะปีนี้เกณฑ์เน้น คุณภาพข้อมูล มากขึ้น ถ้าแฟ้มยังไม่ตอบว่าใช้เข้าคืนอย่างไร หรือเอกสารไม่สอดคล้องกับบัญชี โอกาสจะน้อยลง ต่อให้ดอกเบี้ยต่ำลงก็ตาม
Q2: เริ่มใหม่ ไม่มีหลักทรัพย์ จะเข้าถึง แหล่งเงินทุน อย่างไร? A: เริ่มจาก สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ ที่เน้นกระแสเงินสดจริง 36 เดือน บวกเอกสารดีลจริง จากนั้นค่อยต่อยอดด้วย เงินทุนหมุนเวียน และทางเลือกซัพพลายเชน/ค้ำประกันเพื่อยกระดับเพดาน
Q3: ขอก๊อกเดียวใหญ่ หรือค่อย ๆ เปิดหลายก๊อกดี? A: ในปีที่มาตรฐานเข้ม แนวทางที่ผ่านง่ายและปลอดภัยคือ แยกตามหน้าที่ของเงิน แล้วค่อยๆ ขยายตามผลจริง มากกว่าขอก้อนเดียวครอบทุกอย่างตั้งแต่วันแรก
สรุปแบบที่ปรึกษา: เลือก เงินให้ถูกงาน แล้วเล่าเรื่องด้วยหลักฐานจริง
หัวใจของปี 2568 คือการทำให้ผู้ให้กู้ เชื่อจากข้อมูล ไม่ใช่ เชื่อจากความตั้งใจ
เริ่มด้วย เรื่องเล่าเงินสดหนึ่งย่อหน้า
ให้เอกสารบัญชี พูดเรื่องเดียวกัน
จับคู่ แหล่งเงินทุน ตามหน้าที่ของเงิน (เงินทุนหมุนเวียน/เงินก้อน/เร่งเงินเข้า)
ใช้คันโยกค้ำซัพพลายเชนเพื่อขยายเพดาน เมื่อธุรกิจเริ่มมีหลักฐานแน่นขึ้น
ถ้าคุณอยากเห็น ภาพใหญ่ทั้งชุด ของสิ่งที่เปลี่ยนในปีนี้ตั้งแต่แนวโน้มดอกเบี้ย มาตรฐานการปล่อยกู้ ไปจนถึงวิธีตั้งแฟ้มให้เดินไวสำหรับ เงินทุน, แหล่งเงินทุน, เงินทุนหมุนเวียน, สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่, สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ผมแนะนำให้อ่านบทความหลักต่อได้ที่นี่ (ลงรายละเอียดเชิงนโยบายและกรอบคิดครบถ้วน):
👉 อ่านบทความหลัก: สินเชื่อ SMEปี 2568
เข้าชม : 21
|