
ลองนึกภาพตามนี้ครับ: คุณเพิ่งได้ออเดอร์ก้อนโตจากคู่ค้ารายใหม่ ต้องสต๊อกวัตถุดิบ จ่ายค่าขนส่ง และมัดจำแรงงาน วันนี้ แต่ฝั่งรายรับคู่ค้าขอเครดิตเทอม 4560 วัน ระหว่าง เงินออกวันนี้ กับ เงินเข้าคราวหน้า จึงเกิดหลุมเงินสดที่เราเรียกกันว่า Credit Term Gapช่องว่างรับช้าจ่ายเร็ว ถ้าปล่อยไว้ ยอดขายกำลังดีอาจกลายเป็น ต้นทุนโอกาส ทันที เพราะผลิตไม่ได้ ส่งของไม่ทัน หรือเสียส่วนลดหน้าร้าน เครื่องมือที่ช่วยอุดช่องว่างนี้โดยตรงคือ OD หรือ วงเงินเบิกเกินบัญชี เงินหมุนสั้น ๆ ที่ดึงมาใช้ได้ทันที แล้ว โปะคืนเมื่อเงินเข้าบัญชี จุดเด่นคือ คิดดอกเฉพาะยอดที่ใช้จริงและคิดรายวัน จึงยืดหดตามรอบงานได้ดี เหมาะกับธุรกิจที่รายได้รายจ่ายไม่ลงวันเดียวกันเสมอไป (นี่คือความหมายของ odคือ ในภาษาหน้างาน)
ทำไม ช่องว่างรับช้าจ่ายเร็ว ถึงกัดกำไรได้มากกว่าที่คิด 1. เครดิตเทอมยาวคือเงินสดที่รออยู่ปลายทาง ในโลกจริงเงื่อนไขเครดิตเทอมกระจายกว้างตั้งแต่ 7180 วัน ขึ้นกับประเภทธุรกิจ (ค้าส่ง 715 วัน, ขนส่ง 3060 วัน, ก่อสร้าง 90 วัน ฯลฯ) ยิ่งเทอมยาว หลุมเงินสดก็ยิ่งกว้าง หากไม่เติมด้วย สินเชื่อระยะสั้นประสิทธิภาพการผลิตและการขายจะสะดุดง่าย ๆ แม้ยอดสั่งซื้อจะดีแค่ไหนก็ตาม. 2. มาตรฐานเครดิตเทอม (3045 วัน) เริ่มเป็นวาระนโยบาย ฝั่งนโยบายไทยผลักดันมาตรการทำให้ SME ได้รับชำระเงินเร็วขึ้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจากการกู้เสริมสภาพคล่อง โดยมีข้อเสนอเชิงมาตรฐาน 3045 วัน และข่าวความคืบหน้าว่าการกำหนดเพดานเวลาชำระจะช่วยลดเหลื่อมล้ำระหว่างรายเล็กรายใหญ่ (ดีต่อสภาพคล่อง แต่ก็ยังมี รอยต่อเงินสด ให้ต้องบริหาร) นี่ตอกย้ำว่า Credit Term Gap คือเรื่องโครงสร้าง ไม่ใช่ความขี้เกียจของคู่ค้า และเราควรเตรียมเครื่องมือทางการเงินไว้ตั้งแต่วันแรก.
OD ที่ ถูกงาน หน้าตาเป็นอย่างไร หลักคิด: ให้เงินกู้วิ่งตามจังหวะเงินจริงใช้เท่าที่จำเป็น แล้วคืนทันทีที่เงินเข้า นี่ต่างจากกู้เทอมยาวที่ต้องจ่ายดอก ทั้งก้อน แม้ช่วงนั้นไม่ได้ใช้เงินครบ โครงสร้างและวิธีคิดดอก: ธนาคารผูก OD กับบัญชีกระแสรายวัน คิดดอกจาก ยอดคงค้าง ณ สิ้นวัน และผู้กู้สามารถฝากเงินเข้าเพื่อลดยอดได้ตลอด (จึงเหมาะกับการ โปะคืนเร็ว) รูปแบบนี้ลดต้นทุนดอกเฉลี่ยเมื่อเทียบกับการลากเงินยาวเกินความจำเป็น. นิยามแบบภาษาคน: odคือ วงเงินสำรองที่เปิดค้างไว้ในบัญชีธุรกิจ ใช้ตอน เงินออกมาก่อน เช่น ค่าวัตถุดิบ น้ำมัน ค่าจ้าง และ เงินเข้าช้า เช่น เก็บบิลปลายเดือนพอเงินเข้าก็หยอดคืนปิดลูป เป็น สินเชื่อระยะสั้น โดยกำเนิด. ถ้าไม่มีทรัพย์ค้ำ? ยังมีทางเลือก เงินกู้OD ไม่มีหลักประกัน จากผู้ให้บริการบางรายเช่นกัน โดยพิจารณาจากยอดขาย การเดินบัญชี และวินัยการเงินเป็น แหล่งเงินทุนไม่ใช้หลักทรัพย์ ที่ตอบโจทย์งานหมุนสั้น ๆ (เงื่อนไขขึ้นกับผู้ให้กู้และความเสี่ยงของกิจการ)
ตั้ง เพดาน OD อย่างพอดีมือ (สูตรเริ่มต้นใช้งานได้จริง) 1. ทำตารางเงินเข้าออก 12 สัปดาห์ หา หลุมเงินสดสูงสุด 2. บวกกันชน 1020% สำหรับเหตุไม่คาดคิด (สินค้าเสียหาย/งานเร่ง) 3. ครอสเช็กด้วยตัวชี้วัดง่าย ๆ เช่น OD ≈ 1.01.5 เท่าของค่าใช้จ่ายคงที่รายเดือน หรือ ≈ 1015% ของยอดขายไตรมาสล่าสุด เมื่อได้เพดานแล้ว อย่าลืมกำหนด ระดับแจ้งเตือน (เช่น ใช้เกิน 70% ติดต่อกัน 2 สัปดาห์) เพื่อประเมินว่าต้อง ขยายวงเงิน หรือ แยกงานบางส่วนไปสินเชื่อเทอม แทนการฝืนลาก OD ให้กลายเป็นเงินยาว เคล็ดลับ: หากธุรกิจเอกสารเป็นดิจิทัลตั้งแต่ใบแจ้งหนี้ถึง e-Receipt ผ่าน PromptBiz (มาตรฐาน ISO 20022) ฝ่ายอนุมัติมองเห็น ทางเงินกลับ ได้รวดเร็วขึ้น ช่วยให้ ผ่านง่าย และต่อรองเงื่อนไขได้ดีกว่า เพราะความเสี่ยงตรวจสอบลดลง.
กรณีใช้งานจริง (Scenario) ธุรกิจซื้อมาขายไป: จ่ายของหน้าท่า 100% วันนี้ แต่เก็บเงินลูกค้าใน 45 วัน ใช้ OD ดึง 6070% ของทุนสินค้าในวันที่เบิกจ่าย และทยอยโปะคืนเป็นงวดเมื่อมีรายได้เข้าภายในสัปดาห์ทำให้ จ่ายดอกเฉพาะวันที่ใช้จริง ไม่ต้องแบกต้นทุนทั้งก้อน ผู้รับเหมาโลจิสติกส์: ค่าน้ำมัน/ค่าแรงจ่ายทุกสัปดาห์ แต่ตัดรอบบิลลูกค้าเป็นเดือน เบิก OD ทุกต้นสัปดาห์ และปิดรอบทุกครั้งที่รับชำระ เพื่อลดดอกออกจากบัญชีเร็วที่สุด (ช่วยให้ Utilization ของ OD ไม่พุ่งค้าง จนเสี่ยงกลายเป็นเงินยาว) โรงงานอาหาร/เครื่องดื่ม: ต้องสต๊อกวัตถุดิบล่วงหน้าเพื่อรับเทศกาล ยอดขายพุ่ง 30 วัน ก่อนเข้าสู่เดือนยอดเบา ใช้ OD รองรับช่วง เร่งซื้อเร่งผลิต และ ย้ายส่วนที่เป็นเครื่องจักร/ไลน์ใหม่ ไปอยู่สินเชื่อเทอมลดการเอา เงินสั้นไปทำของยาว ซึ่งทำให้ดอกบานโดยไม่จำเป็น
วินัยการใช้ OD ให้ คุ้มและปลอดภัย แยกงาน: เงินหมุนสั้นใช้ ODเงินลงทุนยาวใช้เทอม (Term Loan/เช่าซื้อเครื่องจักร) เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยและความเสี่ยงผิดวัตถุประสงค์ ปิดรอบเป็นวัฏจักร: ตั้งเป้าล้าง OD ลงสู่ศูนย์หรือใกล้ศูนย์ตามรอบรับเงินอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อโชว์วินัยการเงินต่อผู้ให้กู้ (ดีต่อความน่าเชื่อถือการขยายวงเงิน) ทำเอกสารให้ อ่านง่ายตรวจง่าย: แนบ e-Invoice/e-Receipt และสเตทเมนต์ที่สะท้อนวินัยรับจ่ายตรงเวลา ลดเวลาตรวจและ ลดส่วนเพิ่มเผื่อความเสี่ยง (risk premium) ตั้งแต่ใบเสนอเบื้องต้น.
ไม่มีหลักทรัพย์ ก็ใช่ว่าจะใช้ OD ไม่ได้ นอกจาก OD แบบมีหลักประกัน หลายสถาบันเสนอ สินเชื่อ OD ไม่มีหลักประกัน (วงเงินขึ้นกับยอดขาย/เดินบัญชี/เครดิตบูโร) และบางกรณีสามารถใช้ ค้ำประกันสินเชื่อจากรัฐ มาช่วยคานงัดวงเงินดอกได้ โดยบทบาทของ บสย. (TCG) และกรอบสถาบันค้ำประกันแห่งชาติ (NaCGA) ที่กำลังเดินหน้า ช่วยให้ แหล่งเงินทุนไม่ใช้หลักทรัพย์ เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับ SME ที่มีศักยภาพแต่ทรัพย์ค้ำจำกัด. หมายเหตุ: เงื่อนไขจริงขึ้นกับผู้ให้กู้ ความเสี่ยงของธุรกิจ และกฎเกณฑ์กำกับใช้หน้า สินเชื่อ OD ของ EasyCashflows เป็น กรอบประเมินเบื้องต้น ก่อนคุยดีลจริง จะช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมเอกสารและเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงงาน.
เช็กลิสต์ ยื่น OD ให้ผ่านไวดอกคุมได้ (ทำได้ทันที) 1. สรุปรอบเงินเข้าออก 12 สัปดาห์ เพื่อชี้ หลุมเงินสดสูงสุด และเหตุผลของวงเงินที่ขอ 2. แนบหลักฐานรายได้ดิจิทัล (PO/e-Invoice/e-Receipt) ตามโครง PromptBiz เพื่อให้เห็นเส้นทางเงินกลับชัดเจน 3. แผนโปะคืน เป็นไทม์ไลน์ (เมื่อไหร่ เงินจากลูกค้าคนไหน จะเข้ามาโปะเท่าไร) 4. วินัยบัญชีเครดิตบูโร: โชว์สเตทเมนต์และประวัติชำระตรงเวลาช่วยให้เรตดีขึ้นแม้ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ. 5. ตั้งเกณฑ์ภายใน เช่น ใช้ OD เกิน 70% ต้องขออนุมัติระดับผู้จัดการการเงิน เพื่อกันการลากเงินยาว
สรุป (มุมที่ปรึกษา) Credit Term Gap คือสาเหตุใหญ่ที่ทำให้กำไร รั่ว แบบไม่รู้ตัว การมี OD ที่ออกแบบ ถูกงานถูกจังหวะ ช่วยให้ธุรกิจไม่ชะงักในวันที่ เงินออกก่อน เงินเข้าทีหลัง และเมื่อใช้ควบคู่กับเอกสารดิจิทัล (PromptBiz) คุณจะ ผ่านง่ายขึ้นและคุมดอกได้ดีขึ้นไม่ว่าคุณจะใช้ OD แบบมีหลักทรัพย์ หรือมองหา แหล่งเงินทุนไม่ใช้หลักทรัพย์ อย่าง สินเชื่อ OD ไม่มีหลักประกัน ก็ตาม.
อ่านต่อ หากอยากดูภาพรวมแบบครบและตัวอย่างเอกสาร/ขั้นตอนยื่นที่หยิบใช้ได้ทันที แนะนำอ่านบทความOD
เข้าชม : 11
|