ในช่วงปี 25672568 ภาพรวมสินเชื่อภาคธุรกิจของไทยสะท้อนภาพชัดเจนว่า สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังขยายตัวได้ แต่สินเชื่อธุรกิจ SME หดตัวต่อเนื่อง เพราะธนาคารระมัดระวังความเสี่ยงมากขึ้น สำหรับเจ้าของกิจการระดับกลางใหญ่ที่กำลังมองหา สินเชื่อsmeไม่มีทรัพย์ค้ำ หรืออยากได้วงเงินเพิ่มเพื่อขยายโรงงาน เปิดสาขาใหม่ หรือเสริมสภาพคล่อง การ จัดการเรื่องหลักประกันให้เป็น กลายเป็นประเด็นสำคัญไม่แพ้การจัดงบการเงินให้สวย เพราะในทางปฏิบัติ สถาบันการเงินจำนวนมากยังใช้ หลักประกันสนับสนุน เพื่อช่วยให้ดีลผ่านง่ายขึ้น ดอกเบี้ยดีขึ้น และวงเงินสูงขึ้น แม้ผลิตภัณฑ์จะถูกวางตำแหน่งว่าเป็น สินเชื่อไม่มีหลักประกัน ก็ตาม บทความนี้จึงชวนมาดูว่า สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ หลักประกันแบบไหนเหมาะกับการใช้ค้ำ และจะวางกลยุทธ์อย่างไรให้คุ้ม ทั้งในมุม ต้นทุนดอกเบี้ย, ความคล่องตัว และ โอกาสอนุมัติ โดยเชื่อมโยงกับทางเลือกทั้งแบบสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก และสินเชื่อมีหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ
1. ทำไมยังต้องสนใจ หลักประกัน ในยุคที่ทุกคนพูดถึงสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลายกิจการอยากได้ สินเชื่อไม่มีหลักประกัน หรือ สินเชื่อเงินด่วน เพื่อไม่ต้องผูกที่ดินหรือโรงงานกับธนาคาร แต่ในโลกจริง ธนาคารยังต้องบริหารความเสี่ยงจากคุณภาพหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ที่อัตราหนี้เสีย (NPL) ยังอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังโควิด Bot ดังนั้น แม้จะยื่นขอเป็น สินเชื่อsme แต่ธนาคารมักมององค์ประกอบควบคู่กัน 3 ด้าน คือ 1. คุณภาพงบการเงินและกระแสเงินสด กำไรขั้นต้น, EBITDA, รอบหมุนเงินสด 2. วินัยเครดิต ประวัติชำระหนี้ของบริษัทและกรรมการ 3. หลักประกันสนับสนุน ทั้งสินทรัพย์จริง และการค้ำประกันโดยหน่วยงานภายนอก เช่น บสย. ผลคือ ผู้ประกอบการที่มี รายได้สม่ำเสมอ, บัญชีโปร่งใส และมีหลักประกันบางส่วน มักได้เงื่อนไขดีกว่าการพยายามยื่น เงินกู้ sme แบบ ปลอดหลักประกัน 100% ในขณะที่งบการเงินยังไม่แข็งแรงพอ
2. ประเภทหลักประกันที่พบได้บ่อยในสินเชื่อธุรกิจระดับกลางใหญ่ ในบทความหลักของ EasyCashFlows ระบุชัดว่า แม้จะโฟกัสสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ ธนาคารหลายแห่งยังใช้ หลักประกันทดแทน/สนับสนุน อยู่เสมอ เช่น เงินฝาก, ที่ดิน, หนังสือค้ำประกัน และการค้ำโดย บสย. สามารถสรุปภาพรวมได้ดังนี้ 2.1 เงินฝาก / บัญชีเงินฝาก (Cash Collateral) การใช้เงินฝากเป็นหลักประกันเหมาะกับกิจการที่มีเงินสดคงเหลือในระบบระดับหนึ่ง แต่อยากขยายวงเงิน สินเชื่อเงินกู้ หรือปรับดอกเบี้ยให้ถูกลง ธนาคารบางแห่งเปิดสินเชื่อธุรกิจแบบ ใช้บัญชีเงินฝากค้ำประกัน ร่วมกับวงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) หรือ Term Loan ในแพ็กเกจเดียวกัน ข้อดีคือ ไม่ต้องนำทรัพย์สินใหญ่ เช่น ที่ดินโรงงาน ไปจำนอง ข้อควรคิดคือ เงินฝากส่วนนี้จะถูก ล็อก ไว้ ทำให้สภาพคล่องส่วนหนึ่งถูกกันเป็นหลักประกัน สำหรับผู้ที่เคยกู้แบบ สินเชื่อเงินด่วน หรือ กู้sme จาก non-bank แล้วพบว่าดอกเบี้ยสูง การย้ายมาใช้วงเงินธนาคารโดยมีเงินฝากค้ำประกันบางส่วน อาจช่วยลดต้นทุนรวมในระยะยาวได้มากกว่าการพึ่งสินเชื่ออนุมัติง่ายไม่เช็คภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่ามาก 2.2 ที่ดินเปล่า / ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สำหรับกิจการที่มีโรงงาน สำนักงาน หรือคลังสินค้า การนำทรัพย์สินเหล่านี้มาค้ำประกันสินเชื่อเพื่อธุรกิจยังถือเป็น เครื่องมือหลัก ในการขอวงเงินลงทุนหรือขยายกิจการ สินเชื่อกลุ่มลงทุนทรัพย์สิน เช่น BizProperty ของธนาคารยูโอบี ให้วงเงินสูงสุดราว 40 ล้านบาท ใช้สถานประกอบการค้ำประกันได้ และบางโปรแกรมระบุ LTV สูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เช่น ซื้อที่ดินขยายโรงงาน รีไฟแนนซ์สินเชื่อเดิม หรือนำวงเงินไปต่อยอดธุรกิจอื่น แม้จะไม่ใช่ สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 100% แต่กลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ ใช้ทรัพย์สินค้ำเฉพาะก้อน ลงทุนยาว แล้วกันวงเงินหมุนเวียนสั้น ๆ ให้เป็นแบบ semi-unsecured หรือใช้ สินเชื่อ บสย ค้ําประกัน ร่วมด้วย เพื่อลดการนำทรัพย์ไปผูกเกินจำเป็น 2.3 หนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee LG) ธุรกิจที่เข้าร่วมงานประมูลรัฐวิสาหกิจ หรือทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน มักต้องใช้หนังสือค้ำประกัน (LG) แทนการวางเงินสดหรือแบงก์การันตีจำนวนมาก ธนาคารหลายแห่งเช่น UOB เสนอแพ็กเกจสินเชื่อที่รวม LG เป็นส่วนหนึ่งของ ชุดวงเงินเพื่อธุรกิจ เช่น BizSolution ซึ่งรองรับทั้ง OD, Term Loan และ LG ในวงเงินเดียวกัน แม้ LG จะไม่ใช่ เงินสด ที่โอนให้ลูกค้า แต่การมีวงเงิน LG ช่วยให้กิจการเข้าถึงโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลบวกกลับมายังกระแสเงินสดและความน่าเชื่อถือเมื่อยื่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ sme เพิ่มเติมในอนาคต 2.4 การค้ำประกันโดย บสย. (TCG Guarantee) สำหรับกิจการที่งบการเงินดีระดับหนึ่ง แต่ หลักทรัพย์ไม่พอ หรือไม่ต้องการนำทรัพย์ไปค้ำเต็มจำนวน ทางเลือกที่ถูกพูดถึงมากในกลุ่ม สินเชื่อธุรกิจ sme คือการใช้ สินเชื่อ บสย ค้ําประกัน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีบทบาทสำคัญในการช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ SME ที่หลักทรัพย์ไม่เพียงพอ โดย บสย. ค้ำให้ธนาคารบางส่วน แลกกับค่าธรรมเนียมค้ำประกันรายปีในปี 2568 ยังมีมาตรการพิเศษหลายโครงการ เช่น วงเงินค้ำประกันรวมกว่าแสนล้านบาท ค่าธรรมเนียมต่ำลง และบางโครงการฟรีค่าธรรมเนียมในช่วงปีแรก ๆ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ SME ที่ยังมีศักยภาพแต่ขาดหลักประกันแข็งแรง สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการ เงินกู้ sme วงเงินสูงขึ้น แต่ยังอยากเก็บทรัพย์ไว้ใช้ในอนาคต การใช้โครงสร้าง ธนาคาร + บสย.ค้ำประกัน อาจเป็นทางออกที่สมดุลระหว่างต้นทุนกับโอกาสในการเข้าถึงวงเงิน
3. จะเลือก มีหลักทรัพย์ หรือ ไม่มีหลักทรัพย์ อย่างไรให้คุ้มในปี 2568 คำถามที่เจอบ่อยคือ ถ้ามองหา สินเชื่อ sme คือ แบบไม่มีหลักทรัพย์เลย กับแบบใช้ทรัพย์ค้ำบางส่วน อะไรคุ้มกว่า? แนวคิดหนึ่งที่ใช้ได้จริง คือ เปรียบเทียบ ต้นทุนรวม และ ต้นทุนโอกาส 1. กรณีเน้นความคล่องตัวสูง ◦ เหมาะกับธุรกิจที่กำลังเติบโตเร็ว ต้องการขยับกลยุทธ์บ่อย เช่น เพิ่มไลน์สินค้า ทดลองตลาดใหม่ ◦ อาจใช้สินเชื่อกึ่งไม่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อธุรกิจแบบไม่มีหลักทรัพย์หรือใช้เพียงการค้ำกรรมการ ร่วมกับวงเงิน OD ขนาดเล็ก ◦ ธนาคารบางแห่งมีผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้สำหรับ SME เช่น สินเชื่อธุรกิจแบบไม่ใช้หลักประกันวงเงิน 35 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้น 2. กรณีต้องการวงเงินสูงและดอกเบี้ยต่ำลง ◦ เมื่อลงทุนโครงการใหญ่ที่มีอายุยาว การนำทรัพย์บางส่วนมาค้ำ อาจทำให้ได้ทั้งวงเงินสูงขึ้นและดอกเบี้ยต่ำลง ◦ ตัวอย่างเช่น สินเชื่อเพื่อซื้อสถานประกอบการหรือโรงงานที่ใช้ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นหลักประกัน พร้อม LTV สูงถึง 80100% ในบางธนาคาร 3. กรณี SME หลักทรัพย์น้อยแต่ธุรกิจมีศักยภาพ ◦ มักเหมาะกับโครงสร้าง ธนาคาร + บสย. ค้ำประกัน ที่ช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงฝั่งสถาบันการเงิน และเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อธุรกิจ smeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในเชิงกฎหมาย (คือใช้การค้ำโดย บสย. แทนทรัพย์ของเจ้าของกิจการ) สำหรับผู้ที่เคยพึ่งพา สินเชื่อเงินด่วน จากแหล่งที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือโฆษณาแนว สินเชื่ออนุมัติง่ายไม่เช็คภาระหนี้ จำเป็นต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะแม้ขั้นตอนจะรวดเร็ว แต่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมมักสูงกว่าสินเชื่อในระบบมาก และอาจส่งผลต่อเครดิตในระยะยาว หากต้องการ กู้sme จากธนาคารในอนาคต
4. มองตลาดปี 2568: ทำไมต้องเตรียมตัวให้ งบแข็งหลักประกันชัดแผนเงินสดดี ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2568 สินเชื่อกลุ่ม SME ในระบบธนาคารยังหดตัว ขณะที่กลุ่มบริษัทใหญ่ยังขยายตัวได้ ทั้งจากความเสี่ยงเครดิตและคุณภาพหนี้ที่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มธุรกิจ Bot+2Bot+2 พร้อมกันนั้น ภาครัฐก็เริ่มออกมาตรการสนับสนุน SME ผ่านซอฟต์โลนและวงเงินค้ำประกันเพิ่มขึ้น เช่น แพ็กเกจใหม่ที่เตรียมวงเงินซอฟต์โลนจากแบงก์รัฐและวงเงินค้ำประกันรวมกว่า 2.67 แสนล้านบาท เพื่อช่วยธุรกิจที่สภาพคล่องเริ่มตึงตัวในช่วงเศรษฐกิจชะลอ ภาพรวมจึงชัดเจนว่า ฝั่งธนาคาร คัดเข้มขึ้น ฝั่งรัฐและ บสย. เพิ่มเครื่องมือช่วยค้ำ ผู้ประกอบการที่เตรียม งบการเงินแบบโปร่งใส, กระแสเงินสดเดินดี, เอกสารครบ และบริหารหลักประกันอย่างมีกลยุทธ์ จะยังมีโอกาสเข้าถึงทั้ง สินเชื่อเพื่อธุรกิจ sme และผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจขนาดกลางใหญ่ได้ในเงื่อนไขที่แข่งขันได้
5. สรุป: ใช้หลักประกันให้ คุ้ม แล้วค่อยคุยเรื่องไม่มีหลักทรัพย์ สำหรับกิจการที่กำลังมองหา สินเชื่อ sme คืออะไรแบบไม่มีหลักทรัพย์ หรืออยากได้ เงินกู้ sme เพื่อขยายโรงงานและทีมงานในปี 2568 จุดสำคัญไม่ใช่เลือกแค่ มีหลักทรัพย์ vs ไม่มีหลักทรัพย์ แต่คือการวางโครงสร้างทั้งชุดให้สมดุลระหว่าง ความคล่องตัวของธุรกิจ ต้นทุนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ความเสี่ยงด้านเครดิตและข้อกำหนดในสัญญา การใช้เงินฝาก ที่ดิน อาคาร หรือการค้ำของ บสย. เป็น หลักประกันสนับสนุน อย่างพอดี ร่วมกับการเตรียมงบการเงินและแผนกระแสเงินสดที่ชัดเจน จะช่วยให้ สินเชื่อธุรกิจ smeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือสินเชื่อกึ่งไม่มีหลักทรัพย์ที่ท่านขอ มีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงขึ้น และได้เงื่อนไขที่เหมาะสมกับการเติบโตระยะยาวของกิจการมากกว่าเพียงการมองหา สินเชื่อเงินกู้ ที่ อนุมัติง่าย แต่ต้นทุนสูง หากต้องการศึกษารายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติม ทั้งเรื่องเกณฑ์พิจารณา, ตัวอย่างโครงสร้างวงเงิน และสูตรตั้งวงเงินให้พอดีกิจการ สามารถอ่านต่อได้ที่บทความหลัก สินเชื่อธุรกิจไม่มีหลักทรัพย์ สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ บนเว็บไซต์ EasyCashFlows ซึ่งอธิบายภาพรวมของสินเชื่อประเภทนี้ วิธีประเมินตนเองก่อนยื่น รวมถึงตัวอย่างแผนการเงินสำหรับผู้บริหารที่ต้องการเตรียมตัวอย่างมืออาชีพในปี
เข้าชม : 4
|